การออกแบบบ้านชั้นเดียว ในงบประมาณประหยัด บ้างก็ต้องการให้เป็นบ้านแบบชนบท ใช้หิน ใช้ปีกไม้ประดับผนัง บ้านสองชั้น แต่มีรูปทรงแปลกตา หรือที่สถาปนิกเรียกว่าเป็นงาน CONCEPT แต่อาจจะคล้ายๆเท่านั้น CONCEPT ที่ว่าก็คือ การสอดประสานของรูปทรง ในที่นี้คือวงกลม กล่องสี่เหลี่ยมและแผ่นผืนยาว ทำเป็นบ้านมีแค่ 2 ห้องนอน สำหรับคนประหยัด มีที่จอดรถให้หนึ่งคัน เพราะเป็นสิ่งจำเป็น กำหนดผังบริเวณกับที่ดินได้เสร็จสรรพว่าควรจะอยู่ในที่ดินขนาดต่ำสุดเท่ากับ กว้าง 13.5 เมตร ยาว 2.00 เมตร กำหนดที่จอดรถเอาไว้หน้าบ้าน ประตูรั้วคือประตูโรงรถ แยกตัวจากตัวบ้าน แผงผนังยาวๆก็เพื่อกั้นห้องนอนออกจากเฉลียงหน้าบ้านและทางเดินเข้าเฉลียง แผงผนังนี้คือแผ่นผืนยาวที่ว่า ทำหน้าที่เหมือนแผ่นที่เสียบเข้าไปในตัวบ้าน ที่ประกอบด้วยรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมกับวงกลมที่กำหนดให้เป็นห้องนอนใหญ่ คงจะเห็นว่ามีห้องน้ำเยอะถึงสามห้อง นอกนั้นก็คงพอแก่อัตภาพ กำหนดครัวปรุงอาหารไว้หลังบ้าน ทำเฉลียงหน้าห้องอาหารให้แลลอดออกมาได้พอไม่อึดอัด หลังคาเฉลียงหน้าบ้าน มีเสากลมรับอยู่ต้นหนึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมและพรางแผ่นผนัง กับห้องนอน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในเชิงรูปทรงของสถาปัตยกรรมนี้ สิ่งสำคัญต่อมาก็คือ กำหนดโทนสีของตัวบ้านเพื่อให้แผ่นผนังเด่นออกมาพอๆกับห้องนอนใหญ่ที่เน้น ด้วยอิฐประดับสีน้ำตาลแดง ทำไมต้องทำห้องนอนให้เป็นรูปวงกลม จริงๆแล้วออกแบบห้องนอนในรูปสี่เหลี่ยม แล้วเอาวงกลมสวมทับลงไปในผัง พื้นที่ระหว่างกรอบสีเหลี่ยมกับวงกลมที่เกิดขึ้นนั้นก็ปรับเป็นส่วนใช้สอยไป คือส่วนของห้องน้ำ บริเวณแต่งตัว ตู้เสื้อผ้า และบริเวณที่เป็นกระบะต้นไม้ จุดประสงค์ที่ทำเป็นวงกลมก็เพราะมันให้ความรู้สึกอ่อนโยนและที่สำคัญ ในเชิงของการออกแบบแล้วมันทำหน้าที่เป็นตัวหยุดแผ่นผนังยาวที่เสียบเข้ามา สำหรับห้องครัวกับห้องนอนอีกห้อง ทำเป็นหลังคาจั่วธรรมดา ประตูโรงรถเป็นไม้ เสาสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ ไม่มั่นใจว่า MODERN CLASSIC จะมีความหมายเหมือนกับที่เขาว่ากันหรือไม่ คำว่า MODERN CLASSIC ก็เลยแปลว่าคลาสสิกยุกใหม่และคำว่าคลาสสิกนั้นก็ดูเหมือนว่าพวกเราจะใช้กัน คาบเกี่ยวและเกินเลยจากความหมายแท้จริงของมันไปบ้าง แต่มันก็ติดปากทั้งไทยและเทศจนเป็นทั้งสำนวน(IDIOM)และสแลง(SLANG) กันไปแล้ว คลาสสิกเป็นคำที่เกิดขึ้นในยุคกรีกโบราณ หมายถึง รูปแบบ ระยะ สัดส่วน ที่ถือว่ามีความงามเหมาะสมสุดยอด เป็นแนวความคิดจากเชิงของศิลปวิทยาที่พัฒนาขึ้นจากกำลังกายและใจด้วยเวลาอัน เหมาะสม เป็นช่วงที่มนุษย์กำลังพัฒนาอุตสาหกรรมทุกด้าน ตั้งแต่ระบบสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนศิลปวิทยาการต่างๆ ข้อกำหนด รูปลักษณ์ และสัดส่วนของศิลปะต่างๆ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม ตลอดจนสถาปัตยกรรมนั้นได้ถูกคิดค้นขึ้น และรวมเรียกรายละเอียดเนื้อหาต่างๆ นี้ว่าเป็นรูปแบบที่เป็นคลาสสิก ซึ่งก็ต้องยอมรับจริงๆว่ามันเป็นคลาสสิก จริงๆ เพราะจวบจนปัจจุบันก็ยังหารูปแบบของศิลปะใดที่งดงามยิ่งยวดไปกว่าศิลปะ คลาสสิกได้ไม่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าศิลปะในยุคอื่นจะไม่มีความงามแต่เป็นความงามอีกรูป แบบหนึ่ง มนุษย์ได้หวนนำศิลปะคลาสสิกมาเป็นยุคของศิลปะอีกครั้งก็คือ ยุคฟื้นฟูศิลปะ ที่เรียกว่า RENAISSANCE และก็ทำได้ดี ดีจนเกิดศิลปะแขนงอื่นๆ ทั้งนาฏกรรม วรรณกรรม และคีตกรรม ที่เรียกตัวเองอย่างเต็มปากว่าเป็นศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ศิลปะคลาสสิกก็มีเกิดขึ้นในบ้านเรา ไม่ได้หมายความว่าเอาอิทธิพลของฝรั่งชาติกรีกมา แต่เราก็มีการพัฒนารูปแบบศิลปะในชาติของเราเองตั้งแต่ยุคศรีวิชัย อู่ทอง ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ยุคคลาสสิกของเราก็คือสุโขทัยนั่นเอง แล้วอยุธยาก็กลายรูปแบบของสุโขทัยมาเป็นรูปแบบของตน แต่ก็ยังมีอิทธิพลในเชิงรูปแบบจากสุโขทัยอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น